ดูอันดับเกม Facebook ด้วย AppData by akara
Feb2
ถ้าคุณเป็นศิลปิน คุณเองก็คงอยากรู้ว่าเพลงของคุณนั้น ฮิตติดชาร์ตอยู่อันดับที่เท่าไร
หรือต่อให้ไม่ิติด Top Chart คุณเองก็น่าจะอยากรู้ว่า คนเค้าชอบฟังเพลงแบบไหนกันบ้าง
เพลงไหนที่มันฮิต คนชอบฟังเยอะๆ
ก็เหมือนกันครับ ถ้าคุณเป็นคนทำเกม คุณก็น่าจะอยากรู้เกมที่คุณทำนั้น อยู่อันดับที่เท่าไร
สำหรับ Facebook Game แล้วสามารถดูไ้ด้ที่เว็บ AppData นี่เลยครับ
เข้ามาถึงหน้าแรกเลยก็จะมีอันดับ Facebook App ที่มีคนใช้เยอะที่สุดให้ดูครับ ซึ่งจะไม่ได้มีแต่เกมเท่าั้นั้น
เลื่อนลงมาข้างล่างหน่อย ก็จะมี App ที่ผู้ใช้เพิ่มมากขึ้นสูงสุด ประจำวัน/อาทิตย์ ให้ดู
App ที่มีคนเลิกใช้สูงสุดก็มีนะ
ถ้าอยากดูข้อมูล App ใดๆ ก็ Search หาเอาได้ครับ
ข้างในหน้าข้อมูลของ App ก็จะมีข้อมูลทั่วๆไป DAU, MAU, ผู้พัฒนา แล้วก็มีกราฟแสดงจำนวนคนเล่นด้วย
ซึ่งสามารถดูย้อนหลังได้แค่ 30 วันเท่านั้นครับ อยากดูมากกว่านี้ ก็จ่ายตังเอา
นอกจากนี้ก็มีข้อมูลของผู้พัฒนาให้ดูได้ด้วย
โดยปกติแล้ว ข้อมูลของ App ต่างๆใน AppData จะขึ้นมาเองครับ แต่ถ้าเป็น App พึ่งสร้างใหม่อาจจะยังไม่มี
ถ้าอยากให้เกมของคุณขึ้นมาเร็วๆ ก็สามารถส่งข้อมูลให้้ AppData ได้ครับ
ด้วยการกดที่ลิ้งค์ Add your app ที่แถบซ้ายมือ
สร้าง Disco ball 3d ใน Illustrator by Amp3r3
Feb0
โปรแกรมกราฟฟิคพื้นฐานอย่าง Illustrator ก็ทำกราฟฟิค 3dได้
…ง่ายๆ ไม่ยากขอให้ตั้งใจ…ต่อไปเชิญฟังคำบรรยาย!!!
เริ่มจากการสร้างช่องสี่เหลี่ยมคละสี (จะมากจะน้อย ขึ้นอยู่กับความขยันส่วนบุคคล)
เอาช่องสี่เหลี่ยมที่สร้างแล้วไปใส่ลงใน Symbols (ตั้งชื่อตามความพึงพอใจ)
อ๋อ!!!…ลบช่องสี่เหลี่ยมที่อยู่บนไฟล์งานทิ้งไปเลย
ลืมช่องสี่เหลี่ยมไปก่อน แล้ววาดเส้นครึ่งวงกลมขึ้นมา(ย้ำว่าครึ่งวงกลมจริงๆ)
Select เส้นครึ่งวงกลม แล้วไปที่ Effect > 3D > Revolve
คลิกเลือกคำสั่ง Right Edge *อย่าลืม Preview นะ เดี๋ยวจะมองอะไรไม่เห็น
กำหนดมุมและองศา ในที่นี้จะให้แกน X = 15° แกนYและแกนZ = 0°
ตั้งค่ามุมและอาศาเสร็จแล้ว คลิกเลือกคำสั่ง More Options เพื่อตั้งค่าแสงเงา และเอฟเฟ็คอื่นๆ
คลิก New Light เพิ่มไฟ
New Light *จุดสีขาวสามรถขยับตำแหน่งได้ตามความต้องการ
คลิกเลือกคำสั่ง Map Art
เลือกช่องสี่เหลี่ยมคละสี ที่ใส่ไว้ใน Symbols
ขยายช่องสี่เหลี่ยมคละสีให้เต็มพื้นที่ Map Art *อย่าลืม Preview นะ เดี๋ยวจะมองอะไรไม่เห็น
…เสร็จ วูฮู้!!!
To Be Continued…
หากต้องการเก็บค่าตัวแปรที่เป็น array ลงใน Database หรือ ส่งค่าไปยังหน้าอื่นโดยผ่าน cookie หรือ session by tosawat
Feb0
หากว่าเราเก็บข้อมูลจากหลายอย่างของ user เอาไว้ เช่น user เลือกซื้อของอะไร จำนวนกี่ชิ้น สีอะไร เราก็อาจจะใช้ array เข้ามาช่วยในการเก็บ แล้วถ้าเราต้องการส่งค่าข้ามไปอีกหน้าล่ะ จะทำอย่างไร คำตอบก็คือ เขียนใส่ cookie, session ตามแต่สะดวก
ถ้าตัวอย่างเรามีข้อมูลดังนี้
$shop = array(
’1′ => array(‘type’=>’n1′, ‘color’ => ‘red’, ‘quantity’ => ’3′),
’2′ => array(‘type’ =>’n2′, ‘color’ => ‘blue’, ‘quantity’ => ’4′)
);
เป็น array 2 มิติ แบบนี้ เรา แล้วจะเก็บอย่างไรให้ง่าย และไม่งง หลายคนคงบอกว่า ก็เก็บ cookie แบบ array ไง แล้ว วน loop เขียน และ วน loop อ่านขึ้นมา หรือกระทั่ง session ก็ตาม loop เขียนลงไปตามชื่อตัวแปรที่เราสร้างขึ้นมา 10 ชนิด ก็ได้ cookie 10 ชุดเลย อีกทั้ง เราจะรู้ได้อย่างไรว่า type ของ ตัวแปรที่เก็บลงไป แล้วอ่านขึ้นมา จะยังคงเหมือนเดิม เพราะว่าถ้า วน loop ตามปกติ เราก็ต้องคอยมาดักว่าเป็น quantity หรือเปล่า ถ้าใช่ก็กำหนดให้เป็น int คงเสียเวลามากเลย
แต่จะง่ายกว่ามั้ย หากว่าเราเปลี่ยนมาใช้วิธีง่าย แค่ function เดียว เก็บค่า และยังอ่านออกมาได้โดยคงสภาพข้อมูลที่เหมือนเดิม
นั่นคือ serialize()
วิธีการใช้ก็ง่ายมาก
$shop = serialize($shop);
เสร็จแล้ว แล้วเราก็เอา $shop ไปเก็บใน cookie หรือ session ได้เลย แค่นี้เองครับ เพราะว่าหลังจากที่ผ่านการ serialize มาแล้ว เราจะได้เพียง plain text หรือตัวหนังสือธรรมดา 1 ชุดเท่านั้นเอง
และเมื่อเราจะอ่านค่าและแปลงกลับมาใช้อีกครั้งหนึ่ง เราก็แค่ใช้
$shop = unserialize($shop);
เท่าที่ $shop เราก็จะกลับมามีหน้าตาเหมือนเดิมเปี้ยบเลย
แต่ทั้งนี้อาจจะต้องระวังการเอาไปเก็บใน cookie เพราะว่าการเก็บเป็น plain text แบบนี้จะทำให้ สามารถ แก้ไขได้ง่ายมาก อีกทั้งหลังจากการ serialize แล้วจะทำให้มี header ที่มากขึ้นด้วย แนะนำให้เก็บเป็น session หรือ database จะดีกว่าครับ
วิธีแก้ปัญหา serialize กับ unserialize ที่อยากแนะนำ by tosawat
Feb1
บางครั้งที่เราใช้ function serialize ใน php เพื่อแปลงข้อมูลเป็น text ไปแล้ว แต่เมื่อจะ แปลงกลับด้วย unserialize กลับเจอ error ประมาณนี้ unserialize() [function.unserialize]: Error at offset 297 of 300 bytes โดยตัวเลขอาจจะไม่เหมือนกัน แต่ว่าโดยเนื้อหาก็เหมือนกันนั่นล่ะ
หลังจากที่หาข้อมูลอยู่นาน ก็พบได้ว่า ปัญหาที่แท้จริงแล้วก็คือ format ของ text ที่จะเอามาแปลงกลับโดยใช้ unserialize ไม่ถูกต้อง
หากเราเคยทดสอบ หรือสังเกตุจะเห็นว่า text ที่เราได้จากการแปลงโดยใช้ serialize นั้น จะมีรูปแบบที่ตายตัวครับ นั่นเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมจึงไม่ปลอดภัยเมื่อเราเก็บข้อมูลในรูปแบบ serialize ธรรมดา และด้วยความที่เป็นรูปแบบตายตัว ดังนั้น หากมีการเปลี่ยนแปลงที่ string เพียงแค่จุดเดียวเท่านั้นก็จะทำให้เราไม่สามารถแปลงกลับโดยใช้ unserialize ได้ทันที สำหรับวิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุด สำหรับปัญหา unserialize() [function.unserialize]: Error at offset 297 of 300 bytes ก็คือการตรวจสอบ string โดยอาจจะทำการ echo , print_r หรืออะไรก็ได้ เพื่อหาว่าข้อมูลหรือตัวหนังสือไหน แปลก หรือเพี้ยน หรือว่ามีอะไรขาด หรือเกินจากค่าที่ควรจะเป็นหรือเปล่า
ตัวอย่างเท่าที่เคยเจอมา ก็จะมีแบบว่า จากเครื่องหมาย ” ก็เพิ่มมาเป็น \” (ถูกเติมเข้ามาในกระบวนการบันทึกลงฐานข้อมูล) หรือว่า text ที่จะเอามาแปลงนั้นไม่ครบ คือขาดไปตัวเดียวก็มี error แล้ว เป็นต้น
ดังนั้น วิธีการที่ดีที่สุดก็คือ ลองทดสอบว่า serialize แล้วดูว่าได้ค่าอะไร จากนั้น ลองเอาไปเปรียบเทียบกับค่า ที่ error ว่าหน้าตาเหมือนหรือว่าต่างกันตรงไหนอย่างไร ทำไมจึง error เท่านี้ล่ะครับ แก้ bug ได้แน่นอน
กระจกแตกก ก ก [Ai] by TAMA
Feb0
มาทุบตัวหนังสือให้แตกเปรี้ยงปร้างกัน!
พิมพ์ text ขึ้นมาซักคำค่ะ
Create Outlines ให้เรียบร้อย
แล้วจัดตัวหนังสือแต่ละตัวให้เล็กใหญ่ไม่เท่ากันนะคะ
เสร็จแล้วไปที่ Object >> Expand เพื่อให้เป็นชิ้นเดียวกัน
แล้ววาดสามเหลี่ยมเป็นรอยแตกด้านบน
ประมาณนี้ค่ะ
คลิกที่สามเหลี่ยมทีละชิ้นแล้วเลือก Object >> Path >> Divide Objects Below
ค่อยๆทำไปทีละชิ้นนะคะเพราะใ่ช้คำสั่งนี้พร้อมกันหมดทุกชิ้นไม่ได้ค่า
เสร็จแล้วคลิกขวาเลือก Ungroup
จัดแจงให้ตัวหนังสือเราแตกกระจายเลยค่ะ
สวยงาม เปรี้ยงปร้าง
Who are we?
