วิธีง่ายๆในการจัดกลุ่มตัวแปรใน Inspector by Ziah
Jan0
เมื่อเราต้องการจัดกลุ่มของตัวแปรปกติเราต้องไปยุ่งกับพวก UnityEngine.GUI GUILayout GUIStyle ซึ่งถ้าเราไม่อยากไปวุ่นวายก็มีวิธีง่ายๆโดยใช้การเขียน Class ของตัวแปร ที่มี [Serializable] เอาครับ
ตัวอย่างเช่น เราต้องการตัวแปร 4 ชุด ที่เก็บ GameObject ด้านในคล้ายๆกัน วิธีปกติก็จะได้โค็ดแบบนี้
public GameObject Border4;
public List Piece4;
public List NewPiece4;
public GameObject Border6;
public List Piece6;
public List NewPiece6;
public GameObject Border9;
public List Piece9;
public List NewPiece9;
public GameObject Border12;
public List Piece12;
public List NewPiece12;
ซึ่งหน้าตาใน Inspector จะออกมาแบบนี้ ดูยากมาก
ที่นี้ถ้าเราทำมันเป็น Class ใส่ [Serializable] เข้าไป โค็ดก็จะหน้าตาออกมาเป็นแบบนี้
public Image Image4;
public Image Image6;
public Image Image9;
public Image Image12;
[Serializable]
public class Image
{
public GameObject Border;
public List Piece;
public List NewPiece;
}
ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมาดูง่ายกว่าเดิมมากครับ
[C#] วิธีการ Overload ตัว Operator (+ – * / > = <= == !=) by Ziah
Aug0
เนื่องจากได้เขียน Class ค่าเงินขึ้นมา ซึ่งทำไว้รองรับปริมาณหน่วยเงินจำนวนมากๆ ทำให้ต้องมีการเขียน Overload พวกตัวคำนวน ตัวเปรียบเทียบทั้งหลายขึ้นมาใหม่ เพราะค่าของค่าเงินไม่ได้เก็บไว้ในตัวแปรเพียงตัวเดียว วิธีการ Overload ก็ไม่ยาก ตัวอย่างดังนี้ฮะ ( Currency เป็นชื่อ Class ใหม่)
Overload ตัวคำนวน +, -, *, /
public static Currency operator +(Currency c1, Currency c2)
{
Currency cResult = new Currency();
/**
คำนวนค่า
*/
return cResult; //ส่งค่ากลับ
}
Overload ตัวเปรียบเทียบ >, <, >=, <=, ==, !=
public static Currency operator >(Currency c1, Currency c2)
{
if (/* เงื่อนไขใหม่ที่เปรียบเทียบค่า */)
return true;
else
return false;
}
ง่ายๆเท่านี้แหละครับ
การหลีกเลี่ยงการใช้ List แบบ Public ที่ต้องการกำหนดค่าในโค๊ด by Ziah
Jun0
เป็นปัญหาที่พบล่าสุด โดยปกติแล้วถ้าเรามีตัวแปร Global ที่อยากให้ไฟล์อื่นเรียกใช้โดยที่ไม่ต้องการแก้ไขใน Inspector ของ Unity เราก็จะสร้างตัวแปร Public ไว้ให้ไฟล์อื่นๆเรียกใช้ โดยเราจะสั่ง [HideInInspector] ไว้เพื่อไม่ให้มันโชว์ใน Inspector
แต่ทีนี้ตัวแปร List ที่เราสร้างไว้ เรายังสามารถแก้ไขในโค๊ดยังไงก็ได้ แต่ว่าถ้าเมื่อไหร่ตัว GameObject ของเราเข้าไปอยู่ใน Scene ที่ทำการ Save แล้ว ค่านั้นจะถูกแช่ไว้โดย Unity ทำให้ไม่ว่าเราจะแก้ไขในโค๊ดเท่าไรมันจะไม่เปลี่ยนตาม
List ตัวอย่างที่ถูกแก้ไขมาแล้ว
List ไม่โชว์จากคำสั่ง [HideInInspector]
ข้อมูลเมื่อรันจริง จะได้ค่าที่ถูกแช่ไว้โดย Unity ตอนที่เรา Save Scene
วิธีแก้ปัญหาก็มีได้ 2 วิธี
1. สร้างตัวแปรมาไว้ก่อนแล้ว Init ค่าตอน Awake() หรือ Start()
2. วิธีที่ควรจะเป็นคือ ใช้ตัวแปรเป็น private
ex.
private List TestPublicList = new List()
แล้วถ้าต้องการให้ไฟล์อื่นมาเรียกใช้ก็สร้าง function public มาดึงข้อมูลตัวนี้อีกทีเท่านั้นเอง
ข้อมูลตอนรันหลังจากแก้เป็น private แล้ว
ข้อควรระวังในการใช้ SimpleJSON by Ziah
May0
เนื่องจากทีมได้ใช้ SimpleJSON กันมานานระดับนึงแล้ว แต่ก็ยังมีบั๊คโผล่มาจากการเขียนโค้ดเพิ่มอยู่บ้างบางครั้ง จากเจ้า SimpleJSON ซึ่งมันง่ายสมชื่อ จนทำให้การใช้งานมันสร้างบั๊คแบบไม่รู้ตัวได้ง่ายมากๆ คือการ .Asใดๆ ก็ตามของมัน (ie. .AsInt .AsFloat) ที่มันจะสร้างตัวแปรใหม่มากำหนดค่าเริ่มต้นมาให้เลยทั้งๆที่มันไม่มี index นี้อยู่หรือเป็น null ส่วนมากมักเกิดจากการเช็คเงื่อนไข if ทั่วๆไปที่จะชอบเผลอใส่ .AsInt เข้ามา ทำให้มันมีค่าขึ้นมาเองทันที และการเข้าถึงตัวแปรชั้นลึกๆแล้ว .AsInt โดยที่ไม่เช็คก่อนว่ามีหรือเปล่า ก็จะสร้างขึ้นมาให้เช่นกัน และอีกเรื่องคือการเช็คว่าเป็น JSONClass เปล่าๆ หรือ JSONArray เปล่าๆหรือไม่ ถ้าเช็คไม่ครบก็จะผิดเงื่อนไขเอาง่ายๆ
- เรามาเริ่มที่เรื่องแรกก่อน
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงเลยคือการใช้ .Asใดๆ (หลังจากนี้จะใช้ .AsInt เป็นหลัก) เพื่อดึงค่าตัวเลขที่เราไม่แน่ใจว่ามี index นี้หรือยัง จะทำให้ข้อมูลผิดพลาด
แบบที่ควรหลีกเลี่ยง
JSONNode test = new JSONClass();
int id = test["id"].AsInt; //จะทำให้ index ที่ชื่อ id เป็น 0 ทั้งๆที่ไม่เคยกำหนดค่ามาก่อน
if (test["number_id"].AsInt >= 0){
//ถ้าเช็คแบบนี้เงื่อนไขนี้จะถูกเสมอเพราะโดนกำหนดค่า 0 ตอน .AsInt
}
สิ่งที่ควรทำ
JSONNode test = new JSONClass();
int id = -1;
if (test["id"] != null)
id = test["id"].AsInt //จะทำให้ id ถูกต้องโดยจะเป็น -1 ถ้าไม่มี index ดังกล่าว
if (test["number_id"] !=null && test["number_id"].AsInt >= 0){
//ถ้าเช็คแบบนี้เงื่อนไขนี้จะไม่พลาดเข้าเงื่อนไขเมื่อไม่ได้กำหนด index number_id มา
}
- ถัดมาเรื่องการเช็ค JSONArray และ JSONClass เปล่า ทั้งคู่นี้ใช้การเช็ค Empty ต่างกัน
JSONArray testArray = new JSONArray();
//ใช้
if (testArray.AsObject == null)
JSONClass testObject = new JSONClass();
//ใช้
testObject.AsObject != null && testObject.AsObject.Count > 0
จากที่เห็นผิดนิดเดียวก็เกิดบั๊คกระจุยกระจายได้ ดังนั้นระมัดระวังกันด้วยนะครับ SimpleJSON ใช้ง่าย บั๊คก็ง๊ายง่ายเช่นกัน