How to deal with InnoDB table cannot alter, optimize, dump problem by heha
Jun0
Sorry, this entry is only available in ไทย.
เทคนิคการเขียน PHP ให้เร็วและ ถูกต้อง by tosawat
Jun0
1. echo เร็วกว่า print
*ก็แน่นอนครับ เพราะว่า echo เป็น function ที่เรียบง่ายมากกว่า แต่ว่ากลับกัน print มันทำอะไรได้มากกว่า ก็เลยช้ากว่านั่นเอง
2.เวลาใส่ตัวหนังสือ หรือข้อความให้ใส่ใน ‘ ‘ จะเร็วกว่า ใส่ใน ” ” เพราะว่าเครื่องหมาย “…” มันจะทำการค้นหาตัวแปรที่อยู่ภายในก่อน
*
3.ใช้คำสั่ง sprintf แทนที่จะยัดตัวแปรลงไปตรงๆ จะทำให้เร็วขึ้น 10เท่า!!
* ลองดูวิธีใช้ htttp://th.php.net/sprintf ไม่ยากครับ
4.เรียกใช้ echo หลายครั้ง จะเร็วกว่าการเสียเวลาเพื่อเชื่อมตัวหนังสือก่อนเรียก echo ครั้งเดียว
* เช่นเชื่อมด้วย $tmp .= ‘xxx’; เป็นต้นครับช้า อย่าทำ
5.ในกระบวนการ loop ควรคำนวนค่าต่างๆเอาไว้ก่อนเท่าที่ทำได้ เช่น
1
for($x=0;$x < count($array);$x)
เราควรเปลี่ยนมาใช้
1
$max = count($array);
ก่อน ค่อยเอาค่า$max ไปใช้ เพราะว่ามันจะเสียเวลาคำนวนรอบเดียวเท่านั้น
*
6.พยายามตรวจสอบตัวแปร array ถ้ามีค่าไหนไม่ได้ใช้ก็ unset ทิ้งไปบ้าง
*อันนี้หลายคน ตัวแปรเกลื่อนระบบ เปลืองแรมครับ ตรวจสอบได้จาก print_r($array); นะครับ
7.พยายามอย่าเรียกใช้ function พิเศษ เช่น __get, __set, __autoload
*
8.เรียกใช้ require() แทนที่จะใช้ require_once() เท่าที่จะเป็นไปได้
*ก็เพราะว่า require_once มันจะเสียเวลาตรวจสอบก่อน ว่าไฟล์นี้เคยโหลดเข้ามาหรือยัง ถ้าโหลดแล้วจะไม่โหลดซ้ำ
9.ใช้ Full path ในการ include หรือ require เพื่อลดเวลาการค้นหา path ของ OS ที่รัน
* full path ของไฟล์ที่กำลังทำงานเรียกได้จาก dirname(__FILE__);
10. require() และ include() มันทำงานได้เหมือนกันเลือกใช้ให้ตรงตามความต้องการ มันต่างตรงที่ว่า require() ถ้าไม่พบไฟล์ มันก็หยุดทำงานเลย ความเร็วที่ได้แทบไม่ต่าง
*
11. ตั้งแต่ PHP5 เวลาจุดเริ่มต้นของการ ประมวลผล จะเรียกได้จาก $_SERVER[?REQUEST_TIME?] ไม่ต้องเรียกใช้ time() หรือ microtime()
* ตอนนี้ น่าจะ php5 กันแทบทุกที่แล้วมั้งครับ ไม่มั่นใจลองใช้ phpinfo();
12. PCRE regex ทำงานได้เร็วกว่า EREG แต่จะเห็นผลเมื่อใช้ในแบบ native function
*
13.เมื่อจะประมวลผล XML ใน php ใช้ xml2array จะเป็นการเรียกใช้ PHP XML function และสำหรับ HTML สามารถเรียกใช้ PHP’s DOM document หรือ DOM XML ใน PHP4
*
14.str_replace ทำงานได้เร็วกว่า preg_replace แต่บางครั้ง strtr ก็ทำงานได้เร็วกว่าถ้าต้องใช้กันตัวหนังสือเยอะๆ และเราจะใช้ array() ในการทำงานของ str_replace จะทำให้ทำงานได้เร็วกว่าการเรียก str_replace หลายรอบ
*
15. statement else if ทำงานได้เร็วกว่า select statement หรือว่า case/switch
* เพราะว่า else if เป็นคำสั่งเงื่อนไขที่ simple ที่สุดแล้วครับ
16.การปิด error ด้วย @ ทำให้ทำงานได้ช้ามาก
* เจอบ่อยมาก @mysql_connect แต่ว่า บางครั้ง ก็ปิดเพื่อความปลอดภัยครับ
17.การจะลด bandwidth ให้เรียกใช้ mod_deflate ใน apache 2 และ mod_gzip ใน apache1
*อันนี้ก็ต้องดูว่า server ที่ใช้งานรองรับหรือไม่
18.ปิดการเชื่อมต่อกับ database เมื่อทำงานเสร็จทุกอย่าง
* เพื่อให้เหลือ connection ว่างสำหรับรองรับการทำงานต่อไป และเป็นการคืน ทรัพยากรกลับเข้ามาด้วย
19.$row['id'] เร็วกว่า $row[id] 7เท่า เพราะว่าถ้าเราไม่ใส่เครื่องหมาย มันจะเสียเวลาทำความเข้าใจ index ว่าหมายความว่าอะไร
* ใน php5 มันจะ error แบบเห็นชัดเลย ถึงแม้ว่าเป็นตัวเลขก็ใส่ไว้ครับ เพื่อความเคยชิน
20.ใช้ tag เมื่อเราจะใช้ PHP แทนการเรียกใช้แบบอื่นๆ รวมทั้งการใช้ short tag ด้วย
* อย่างนี้พยายามเลี่ยงครับ
21.เขียนโค้ดให้ถูกต้องตามไวยากรณ์ เพื่อลด error ที่จะเกิดขึ้น ซึ่งหลายครั้งมันเป็นเพียง notice หรือ warning เท่านั้น จะทำให้ลด over head ไปได้ หรือว่าลองเปิด error_reporting(E_ALL) เพื่อให้เห็น error แบบเต็มๆ
*เปิดไว้เถอะครับ เขียนให้ถูกต้องเสมอ อย่าซ่อนขยะใต้พรม
22.การแสดงผลแบบ PHP ทำให้หน้าเว็บช้ากว่า static page 2-10 เท่า (ใน apache httpd) ดังนั้น ใช้ php เท่าที่จำเป็น
* ถ้าหน้าไหนเป็น static ก็ใช้ .html ไปเลย
23.PHP script จะต้องถูกประมวลผลทุกๆครั้งที่มีการเรียกใช้หน้าเว็บ ถ้าไม่มี cache ดังนั้นควรหาระบบ cache มาใช้(เช่น memcached, eAccelerator , Turck MMCache) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ 25-100% เพราะว่าจะลดเวลาการประมวลผลลงได้
*นอกจากนี้ยังมีพวกที่ทำ file cache ด้วยนะครับ คือประมวลผลเสร็จ เก็บผลที่ได้เป็นไฟล์เลย
24.ใช้เทคนิคการทำ cache แบบอื่นๆสำหรับหน้าเว็บที่ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก การทำ cache มันจะเหมือนการแสดงผล HTML ออกหน้าเว็บธรรมดา ลองใช้พวก Smarty หรือ Cache Lite ดู
* การทำ cache จะได้ผลดีสำหรับเว็บที่มี traffic มาก เปิดเว็บเยอะ หรือการเปิดแต่ละครั้งต้องใช้การประมวลผลอย่างหนัก
25.พยายามใช้ isset แทนการใช้ strlen เช่น
1
if (strlen($foo) prop++) ช้าเป็น 3 เท่าเมื่อเทียบกับ local variable
*
44.การเพิ่มค่าให้กับตัวแปร local ที่ไม่ได้ประกาศไว้ก่อน ทำให้ช้ากว่าปกติ 9-10 เท่าเมื่อเทียบกับการประกาศไว้ก่อน
*
45.การสร้างตัวแปร global แม้ว่าจะไม่ได้เอาไปใช้ใน function ก็ทำให้ช้าลง เพราะว่า php จะออกไปเช็คตัวแปร global ที่มีอยู่เสมอ
*
46.จำนวน method ที่เพิ่มขึ้น ไม่ส่งผลต่อ performance (ถ้าใช้งานเท่าเดิม)
*
47.method ใน derived classes ทำงานได้เร็วกว่า base class
*
48.function ที่รับ 1 parameter แต่ใน function ว่างเปล่ามีลักษณะเหมือน การทำงาน $localvar++ 7-8 ครั้ง และถ้าเป็น method ลักษณะนี้ ก็เปรียบกับ $localvar++ 15 ครั้ง
*
49.ไม่จำเป็นต้องทำทุกอย่างเป็น OOP มันจะทำให้เกิด overhead และ method, object จะทำให้เปลือง memory
*
50.อย่าวางใจ ข้อมูลที่ได้มาจากการป้อนของ user เช่น form $_POST ให้ใช้ mysql_real_escape_string แทนการใช้ mysql_escape_string หรือ addslashs แต่ถ้า เปิด magic_quotes_gpc ไว้ ก็ให้ใช้ stripslashes ไว้ก่อน
*
51.ระวังโดน header injection กับ function mail()
* form mail ที่หลายคน copy ตามเว็บมาใช้ มักจะโดนเอาไว้ใช้เป็นช่องทางส่ง email spam โดยที่เจ้าของเว็บไม่รู้ตัวเสมอๆ
52.unset ตัวแปรของ database (อย่างน้อยที่สุดก็ password) ไม่จำเป็นตั้งใช้ หลังจากการเชื่อมต่อ เรียบร้อยแล้ว
*
53.RTFM! ซะ แปลว่า Read The Fucking Manual หรือ อ่านไอ้คู่มือหน่อยเถอะ อ่านได้ที่ http://th.php.net มีคำบรรยาย พร้อมตัวอย่างมากมาย ภาษาก็ไม่ยากเกินไปหรอกนะ