วิธีการเพิ่ม Preset หน้าก็ใน SAI by

30
Nov
0

sample31a

1 หลายๆคนที่ใช้ SAI น่าจะเคยอยากวาดรูปในหน้ากระดาษใหญ่ๆบ้าง แต่ SAI ก็มี preset ให้น้อยเหลือเกิน แถมขนาดก็เล็กเสียด้วย

 

 

sample31b

2 ให้เราไปที่โฟลเดอร์ที่ลง SAI ไว้แล้วหาไฟล์ที่ชื่อว่า presetcvsize แล้วเปิดมันด้วย notepad ขึ้นมา

 

sample31c

3 ในไฟล์คือพรีเซทขนาดต่าง ๆ ที่มีในโปรแกรม โดยเรียงค่าจากซ้ายไปขวาคือ ความกว้าง ความสูง ความละเอียด หน่วยของขนาด (พิกเซล , นิ้ว , เซนต์ , มิล) และ หน่วยของความละเอียด ( พิกเซล / นิ้ว , พิกเซล / เซนต์)

 

 

sample31d

4 เพิ่มขนาดได้ตามใจชอบ แล้วเซฟ

 

sample31e

5 ขนาดที่เราเพิ่มเข้าไปจะแสดงในพรีเซทในโปรแกรม

LTV-Life time value คืออะไร by

30
Nov
0

LTVหรือLife time value คือ การคำนวนมูลค่าตลอดระยะเวลาที่คนเล่นยังเล่นเกมของเราอยู่

โดยคอนเซปต์คือ รายได้ต่อระยะเวลา x ระยะเวลาที่คนเล่นจะเล่นเกมของเราจนกว่าจะเลิก และสามารถคำนวนแยกคนเล่นแต่ละกลุ่มก็ได้ เช่นผู้เล่นชาย ผู้เล่นหญิง ผู้เล่นที่อายุมากกว่า30 ผู้เล่นที่จ่ายเงิน

นำมาใช้ทำอะไร?
แต่ก่อนการจะลงทุน ads อาจจะคำนวน ARPU เทียบกับ acquisition cost แต่ ARPU นั้นเป็นการคำนวนแบบรวมผู้เล่นทั้งหมด จึงมีโอกาสที่ข้อมูลจะแกว่งสูง การใช้LTVจะสามารถได้ข้อมูลที่แม่นยำและเฉพาะเจาะจงมากกว่า

การคำนวน
มีหลักการง่ายๆคือ รายได้ต่อเวลา x ระยะเวลา
แต่ก็มีรายละเอียดที่ต้องลงลึกไปอีก เช่น

รายได้คือรายได้ตัวไหน ARPU ARPPU หรือ ARPDAU
ระยะเวลาคือ retention rate? หรือ คืออันไหนกันแน่

ซึ่งอันนี้ก็แล้วแต่ว่าจะคำนวน LTV ของอะไร

มีเว็บที่แสดงวิธีคิดโดยละเอียดถึง 6 วิธีไว้ด้วย ดูได้ที่นี่ http://blog.soom.la/2016/04/6-ltv-clv-calculators-mobile-apps.html

บทความอื่นๆ

https://www.chartboost.com/blog/2016/08/how-to-calculate-the-lifetime-value-of-a-mobile-gamer/

http://www.gamedonia.com/blog/5-ways-to-calculate-lifetime-value-for-free-to-play-games

http://measureofluck.com/retention-ltv-to-measure-mobile-game-performance/

ทำเส้นปะรอบรูปด้วย PS by

29
Nov
0

1.เปิดรูปที่ไดคัทแล้วเรียบร้อยขึ้นมา(ภาพที่ไม่มีฉากติดอยู่)
1

2.ไปที่เมนูด้านบนเลือก select > load select… จะมีป๊อปอัพขึ้นมากดok จะได้เส้นปะรอบรูป(ตามรูป)
02
02-1

3.จากนั้นกลับไปเลือก select > modify > expand… จะขึ้นป๊อปอัพตั้งค่า expand by = 30 (ยิ่งตั้งค่่าเยอะระยะยิ่งห่างจากรูป)
03
03-1

4. จากนั้นไปเลือกแถบชื่อ paths กดตรงมุมที่มีลูกศรเลือก make work path… ตั้งค่า tolerance = 0,5 กดok
04
04-1

5.ไปที่กดเลือก brush(b) และไปที่ window > brush หรือ(f5) จะขึ้นป๊อปอัพตั้งค่า size = 20 / spacing = 184 (ตามรูป)
05

6. จากนั้นกดคลิกขวาที่แถบ path1 เลือก storke path > ok
06

เท่านี้ก็ได้เส้นปะตามภาพเป็นอันเสร็จ
06-1

ทำ Hot backup percona MongoDB อย่างไร? by

15
Nov
0

** Blog นี้ใช้งาน Percona Mongodb เป็นหลักนะครับซึ่งวิธีการ Backup จะต่างจาก Mongodb เวอร์ชั่นธรรมดาที่ใช้ mongodump หากต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกเพื่ออ่าน Blog เก่าได้ที่นี่

คำสั่ง Backup Percona MongoDB ง่ายมากเลยครับ ขั้นแรกให้เข้า mongo shell ก่อน แล้วใช้คำสั่งตามด้านล่าง

use admin
db.runCommand({backupStart:"/my/backup/data/path"})

โดยแก้ไขส่วนของ /my/backup/data/path เป็น path ที่เราต้องการเซฟ backup ไว้เท่านี้ก็เรียบร้อย ง่ายสุดๆ สั่ง Backup ระหว่างใช้งานโดยไม่กระทบกับผู้ใช้งานปัจจุบันได้เลยครับ แต่ถ้าหากต้องการรันผ่าน linux shell ตรงๆ โดยไม่ต้องเข้า Mongo shell ก่อนก็สั่งดังนี้ได้เลยครับ

mongo --eval "db = db.getSiblingDB('admin'); db.runCommand({backupStart:\"/my/backup/data/path\"});"
tar -cv -C /my/backup/data path | pbzip2 -cv > my_backup.tar.gz2

เพียงเท่านี้ก็จะสามารถตั้ง cron สั่ง backup รายวันได้ทันที แก้ไขตำแหน่งไฟล์ที่ backup ได้ตามสะดวก และสั่ง pbzip2 ให้รวมเป็นไฟล์เดียวเล็กๆ เรียบร้อย

สำหรับวิธี Restore ไม่มีอะไรซับซ้อน ไฟล์ที่เรา backup มานั่นแหละคือ data ของฐานข้อมูล mongodb เต็มๆ สิ่งที่ต้องทำมีเพียง stop mongodb ที่รันอยู่แล้วลบไฟล์ database mongodb ทั้งหมดออกไป (ตัวทั่วไปมักจะอยู่ที่ /var/lib/mongodb) แล้วเอาไฟล์ที่เรา backup ไว้ไปใส่แทน แล้วแก้ owner ของไฟล์เป็น mongod ผ่านคำสั่ง chown แล้วสั่ง start mongodb ขึ้นมาอีกรอบเป็นอันเรียบร้อย ง่ายมากๆ

หาว่า Code PHP ส่วนไหนทำงานช้าด้วย Xdebug PHP Extension by

31
Oct
0

เคยเจอปัญหา Code PHP ทำงานช้าโดนไม่ทราบสาเหตุไหม? แถมเราไม่รู้อีกตะหากว่าไฟล์ไหน บรรทัดที่เท่าไหร่ทำงานช้า จะให้ไปไล่ Code ด้วยมือก็ Code มีเป็นหมื่นเป็นแสนบรรทัด ไม่รู้จะเริ่มยังไงกว่าจะหาเจอ แถมดันช้าเฉพาะบน Server Production อีกตะหาก แต่ชีวิต PHP Developer ก็ไม่ได้ยากขนาดนั้นหากเรารู้จัก Tools ตัวนี้ มันชื่อว่า Xdebug ครับ เป็น PHP Extension นั่นเอง วิธีลงก็แสนง่ายดาย

sudo apt-get install php-xdebug

แค่นี้จบ (Debian/Ubuntu นะ) แต่ถ้าคุณใช้ Linux OS เก่าๆ หน่อย สั่งแล้วหา package ไม่เจอ ก็อาจจะต้อง Download มา compile ด้วย phpize เองดังนี้

  1. Download version ล่าสุดที่เว็บ Xdebug (เขียนว่า source)
  2. tar -xvzf xdebug-x.x.x.tgz (เปลี่ยนชื่อไฟล์ตามเวอร์ชั่นที่โหลดมา)
  3. cd เข้า dir ที่แกะ zip ออกมาตะกี้
  4. phpize
  5. ./configure
  6. make
  7. cp modules/xdebug.so

หลังจากลงเรียบร้อย (ไม่ว่าจะวิธีใดก็ตาม) แก้ไข php.ini โดยเพิ่มคำสั่งตามด้านล่าง (ถ้าลงผ่าน apt-get install อาจจะมีไฟล์ 20-xdebug.ini อยู่แล้ว ให้แก้ไขที่ไฟล์นั้นแทน php.ini)

zend_extension=xdebug.so // อันนี้สั่ง enable extension
xdebug.profiler_output_dir=<save_path> // อันนี้แก้ <save_path> เป็น path ที่เราจะเก็บไฟล์ profiler เอาไว้ write permission ต้อง write โดย user ที่รัน Process php ได้ ส่วนใหญ่จะเป็น www-data ถ้าขี้เกียจคิดมากก็ chmod 0777 <save_path> ไปเลย
xdebug.profiler_enable=0 // สั่ง enable ให้เซพไฟล์ profiler ตรงนี้ถ้ายังไม่ใช้ให้ใส่เป็น 0 ไปก่อน จะใช้เมื่อไหร่ค่อยปรับเป็น 1

** xdebug.profiler_enable นี้สำคัญมาก ไม่ควรใส่ 1 ตลอดเวลา ไม่อย่างนั้นพื้นที่ Harddisk คุณจะเต็มเร็วมาก!!

ก่อนจะใช้งานกับ Production Server ตัวจริงแนะนำให้ทดลองกับ Development Server ที่มีคนเข้าแค่คนภายในก่อน แล้วแก้ php.ini บรรทัด xdebug.profiler_enable=1 ครับ พร้อมเมื่อไหร่ก็สั่ง restart apache หรือ php-fpm (แล้วแต่ว่า server ใช้ตัวไหนอยู่) เพื่อให้ Xdebug เริ่มทำงาน แล้วให้ลองเข้าหน้าเว็บผ่าน browser สักหน้าหนึ่ง แล้วแวะไปดูที่ <save_path> ที่กำหนดเอาไว้แต่แรก หากทุกอย่างถูกต้องจะมีไฟล์ cachegrind.out.xxxx ปรากฏออกมาหลายๆ ไฟล์ ก็ให้ Download file พวกนี้แหละลงมาที่เครื่องเราให้หมด (แนะนำให้สั่ง tar -zcvf <save_zip_file_name> <save_dir> ก่อน)

ขั้นตอนสุดท้าย Download โปรแกรมดูผล Profiler ครับ มีสองตัว ใครใช้ Windows โหลด WinCacheGrind ใครใช้ Linux โหลด KCacheGrind โหลดเสร็จก็เปิดมาสั่ง File -> Open cachegrind.out.xxxx ที่พึ่ง Download มาตะกี้ก็จะดูได้แล้วดังรูปครับ

xdebug

ดูที่ช่อง Self กับ Cum. ก็จะรู้เวลาที่ใช้เรียบร้อย โดย Self ตัวเฉพาะ function นี้ที่ตัวมันเองเรียกเนี่ยใช้เวลาเท่าไหร่ และ Cum. คือรวมเวลา function ลูกที่ function นี้ไป call ต่ออีกทีทั้งหมดใช้เวลาเท่าไหร่ (- แสดงว่าน้อยมากจนแทบไม่มีผล) และจะบอกว่าไฟล์ไหน บรรทัดอะไรให้เสร็จสรรพ ดับเบิ้ลคลิกเข้าไปทีละชั้นๆ ได้เลย

ก็เท่านี้แหละครับสำหรับวิธีใช้งาน หากต้องการใช้บน Production Server หลังจากแก้ไข xdebug.profiler_enable=1 แล้ว restart php-fpm หรือ apache แล้วถ้าคนเล่น active เยอะหน่อยก็ไม่ต้องเปิดนานครับ สัก 5-10 วิพอ แล้วแก้ xdebug.profiler_enable=0 กลับ แล้วรีบ restart php-fpm หรือ apache ทันที มิฉะนั้นมันจะกินที่ไปมหาศาลครับ Download ลงเครื่องเราก็เสียเวลาเยอะอีก

ขอให้โชคดีครับ :)

 เราชนะรอบ 4 | ยืมเงิน 3000 ด่วน | แอพกู้เงิน | แอพเงินด่วน | สินเชื่อออนไลน์อนุมัติทันที | Site Map | กู้เงินก้อน | กระเป๋าตัง | thisshop และ ยืมเงินฉุกเฉิน 5000 ด่วน